คุณยังเจอกับปัญหาเหล่านี้อยู่ไหม ในการนำเข้าของจากจีน?

การนำเข้าของจากจีนหรือการชิปปิ้งจีน หลายๆครั้งเรามักทำความผิดพลาดอย่างอดไม่ได้ ซึ่งความผิดพลาดที่เกิดขึ้นมันเกิดจากรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดจากความไม่รอบคอบบ้าง หรือการเดาไปเองบ้าง ดังนั้นแล้วการเข้าใจปัญหาที่เจอนั้นเป็นเรื่องที่จะสื่อได้ว่าคุณมีความเข้าใจผิดในเรื่องการนำเข้าของจากจีนเรื่องใดบ้าง และสามารถแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างไรได้บ้าง ของจากจีน

ความผิดพลาดที่ 1: มองว่าการขนส่งผ่านอากาศ “แพงเกินไป”

การนำเข้าสินค้าจากจีนสามารถเลือกได้หลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นทางเรือ ทางอากาศ หรือทางไหนก็ตามแต่ ซึ่งหลายคนนิยมขนส่งทางเรือซึ่งถามว่าการนำเข้าของจากจีนทางเรือกับอากาศ ทางอากาศต้องแพงกว่าอยู่แล้ว แต่หารู้ไม่ว่าการขนส่งผ่านทางเรือหรือก็มีค่าใช้จ่ายตามท่าเรือเช่นกัน

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าของที่สั่งมาถึงท่าเรือ เมื่อได้รับสินค้าก็จะมีค่าใช้จ่ายอยู่แล้ว หลายๆท่าเรือจะมีค่าใช้จ่ายยิบย่อย และพอมาคำนวนดีๆ ราคาที่จ่ายอาจจะมากกว่าที่คิด แต่กลับดูน้อยเพียงเพราะว่ายังไม่ได้นำมารวมกันเท่านั้น 

ทั้งนี้การขนส่งทางอากาศส่วนใหญ่จะเป็นแบบเที่ยวเดียว จ่ายครั้งเดียว และเวลาไวกว่าทางเรือ แต่ก็ขึ้นอยู่กับจำนวนสินค้า ประเภทของสินค้าของคุณ รวมไปถึงบริการชิปปิ้งที่คุณเลือกด้วย 

ความผิดพลาดที่ 2: ไม่มีความเข้าใจในเรื่อง Incoterms

Incoterms (International Comercial Terms) ข้อกำหนดการค้าระหว่างประเทศ เป็นกฎเกณฑ์หรือข้อกำหนดสำหรับการนำเข้าของจากจีน อย่างที่เบสิคก็จะมี EXW (Ex Works), DDP (Delivery Duty Paid), FOB (Free on Board) เป็นต้น  

ตัวข้อกำหนดพวกนี้มักมีราคาที่คุณต้องจ่ายเสมอ และการเข้าใจอย่างถี่ถ้วนจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ยกตัวอย่างให้เข้าใจง่ายๆ อย่างกรณีของ FOB ซึ่งมันคือกฎหมายการค้าระหว่างประเทศซึ่งระบุถึงภาระหน้าที่ ต้นทุน และความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องในการจัดส่งสินค้าที่เปลี่ยนจากผู้ขายไปยังผู้ซื้อ 

ยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้าคุณซื้อสินค้าผ่านชิปปิ้งมา มันจะมีค่าสินค้า เรื่องภาษี ค่าขนส่ง ฉะนั้นควรศึกษาเรื่องเหล่านี้อย่างถี่ถ้วนก่อนเสมอ

ความผิดพลาดที่ 3: ไม่มีความรู้เรื่องภาษีของสินค้าที่นำเข้า

การนำเข้าของจากจีน ปัจจุบันสามารถนพเข้าได้หลากหลายและมากมายตั้งแต่ขงทั่วไปยันอาหาร แต่จะมีสินค้าบางประเภทที่มีภาษีสูงมากกว่าสินค้าประเภทอื่นๆ การนำเข้าสินค้าจากจีนมาไทยนั้นเป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการหลายท่านให้ความสนใจ เนื่องจากจีนเป็นแหล่งผลิตสินค้าที่มีความหลากหลายและราคาที่แข่งขันได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้ประกอบการต้องคำนึงถึงคือ ภาษีสินค้านำเข้า ซึ่งมีผลต่อต้นทุนโดยรวมของสินค้า

เมื่อนำเข้าสินค้าจากจีนมาไทย เราจะต้องเสียภาษีหลายประเภท ได้แก่

• ภาษีอากรขาเข้า: เป็นภาษีที่รัฐบาลเรียกเก็บจากสินค้าที่นำเข้ามาในประเทศไทย อัตราภาษีจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเภทของสินค้าและประเทศต้นทาง (ในกรณีนี้คือจีน)
• ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT): เป็นภาษีที่เรียกเก็บจากมูลค่าเพิ่มของสินค้า โดยทั่วไปจะอยู่ที่ 7%
• ภาษีสรรพสามิต: หากสินค้าที่นำเข้าเป็นสินค้าที่ต้องเสียภาษีสรรพสามิต เช่น สุรา บุหรี่ น้ำมันเชื้อเพลิง คุณจะต้องเสียภาษีสรรพสามิตเพิ่มเติม
• ภาษีอื่นๆ: อาจมีภาษีอื่นๆ ที่ต้องชำระเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับประเภทของสินค้าและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

ความผิดพลาดที่ 4: ไม่เผื่อใจเรื่องเอกสารที่อาจทำให้การขนส่งสินค้ามีความล่าช้า

ปกติเวลาส่งสินค้าจะมีการตรวจสอบเอกสาร ดังนั้นตรงนี้อาจสร้างความล่าช้าไม่มากก็น้อย ขึ้นอยู่กับสินค้าที่นำเข้าจากจีนด้วย ทั้งนี้การขนส่งสินค้าจึงใช้เวลามากขึ้นกว่าที่คุณคิด ต้องเข้าใจวิธีการจัดการเอกสารอย่างดีก่อนจึงจะสามารถนำเข้าของจากจีนได้อย่างราบรื่น

อย่างไรก็ตามการใช้บริการชิปปิ้้งจะช่วยตัดปัญหาตรงนี้ได้อย่างเหมาะสมและเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเราเข้าใจดีว่าไม่ใช่ทุกคนที่สามารถมีความเข้าใจในเรื่องการจัดการเอกสารได้ อย่างที่ Ps.sportcargo เรามีบริการจัดการทุกอย่างให้คุณตั้งแต่ต้นจนจบ หมดทุกปัญหาเอกสารที่ยากๆ นั่นเอง 

ความผิดพลาดมักมาจากการสันนิตฐานเองว่าแบบไหนดีกว่า เพียงเพราะเราไม่อยากศึกษา ส่วนนี้จะนำไปสู่ปัญหาที่ทำให้เสียเวลาและเสียเงินมากกว่าที่คุณคิด ดังนั้นหากอยากนำเข้าของจากจีนอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพจริงๆ แนะนำว่าควรศึกษาอย่างถี่ถ้วนก่อน และให้ความสำคัญกับการเลือกชิปปิ้งที่มีคุณภาพ อย่างบริการชิปปิ้ง Ps.sportcargo บริการชิปปิ้งที่ได้มาตรฐาน คุณภาพดี ช่วยให้การขนส่งสินค้ามีความราบรื่น