จีนประเทศที่โดนโควิดถล่ม แต่มีการส่งออกพุ่งสูงยิงขึ้น | PS Sport Cargo

ตัวเลขชิปปิ้งจีนพุ่งสูง หลังโดนโควิดถล่ม 

ในช่วงการเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 ประเทศจีนถือเป็นพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสนี้เป็นที่แรก ทั้งนี้ประเทศจีนเองก็เป็นพื้นที่เศรษฐกิจอันดับต้นของโลก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมส่งออก แต่เมื่อโดนไวรัสระบาดก็ทำให้ได้รับผลกระทบอย่างสาหัส โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการขนส่ง ที่ทำให้การขนส่งทั่วโลกต้องสะดุด
แต่ประเทศจีนเองก็สามารถพลิกฟื้นสถานการณ์ที่ยากลำบากเหล่านี้ได้ ให้กลับเป็นปกติ มิหนำซ้ำยังทำให้ตัวเลขส่งออกสินค้าประเทศจีน เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบสองทศวรรษ ในขณะเดียวกันตัวเลขการนำเข้าสินค้าก็เพิ่มสูง หลังจากที่ได้รับผลกระทบหนักจากการระบาดของ Covid-19 
ทั้งนี้ตัวเลขการส่งออกของประเทศจีนในช่วงมกราคมและเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นถึง 60.6% ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์หลายคนคาดเดาเอาไว้ ในส่วนของตัวเลขการนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้นราว 22.2% ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าประเภทอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และสิ่งทอ โดยเฉพาะหน้ากากอนามัย และอุปกรณ์ป้องกันจากโรคระบาด 
โดยเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรของประเทศจีน ระบุว่า ตัวเลขส่งออก 60.6% ที่สูงเพราะเมื่อปีที่แล้วลดลงราว 17% ในขณะที่การนำเข้าก็ลดลง 4% เพราะเป็นช่วงที่ทั่วโลกได้รับผลกระทบต่อการระบาดระลอกแรก ทำงานอยู่ที่บ้าน เกิดการล็อคดาวน์ ธุรกิจซบเซา เศรษฐกิจตกต่ำ 
แต่เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาตัวเลขส่งออกสินค้าสิ่งทอเพิ่มขึ้น 50.2% ทำให้ประเทศจีนมียอดเกินดุลการค้ารวม 3.3 พันล้านดอลลาร์ ส่วนการค้าระหว่างประเทศก็สามารถปรับตัวเพิ่มขึ้น เศรษฐกิจในประเทศจีนก็ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งจากตัวเลขที่กล่าวมาถือเป็นตัวชี้ชัดว่าสถานการณ์การขนส่ง ชิปปิ้งจีนอยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งด้วยไวรัส Covid-19 ยังเป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้ธุรกิจการขนส่งเติบโตอย่างก้าวกระโดด ทางการจีนเองก็มองเห็นช่องทางที่จะช่วยภาคอุตสาหกรรมนี้เติบโตให้มากขึ้น ด้วยการวางแผนเครือข่ายส่งเสิรมการเชื่อมต่อการค้าระหว่างประเทศให้แข็งแรงยิ่งขึ้น

จีนเร่งวางแผนเครือข่ายส่งเสริมการเชื่อมต่อการค้าระหว่างประเทศ

เมื่อสถานการณ์ในประเทศจีนเริ่มกลับมาอยู่ในภาวะปกติ ยิ่งไปกว่านั้นอุตสาหกรรมชิปปิ้งของจีนเองก็ดูจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด จีนจึงเริ่มวางแผนการขยายและสร้างเครือข่ายการขนส่งที่ทันสมัยภายในประเทศ
เพื่อเป็นการกระตุ้นการเชื่อมต่อ รวมถึงการแจกจ่ายและจัดสรรทรัพยากรระหว่างประเทศทั่วโลก ภายใต้โครงการ “Global 1-2-3 Logistics Circle” เพื่อเป็นการขยายอุตสาหกรรมการขนส่งให้ทันสมัย มีประสิทธิภาพ และเป็นเครือข่ายขนส่งที่ครบวงจรในอีก 15 ปีข้างหน้า
ทั้งนี้ทางคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนและทางสภาแห่งรัฐได้ตั้งเป้าหมายการขนส่งสินค้า ว่าจะต้องขนส่งสินค้าภายในประเทศใน 1 วัน และขนส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้านภายใน 2 วัน และขนส่งไปยังประเทศหลักทั่วโลกภายใน 3 วันเท่านั้น โดยเหตุผลที่จัดตั้งเป้าหมายนี้ขึ้นมาก็เนื่องจากในปีที่แล้ว เศรษฐกิจในประเทศเกิดการชะลอตัว จึงทำให้หลังการแพร่ระบาด Covid-19 ทางการจีนจึงต้องหาวิธีกระตุ้นการขนส่ง พร้อมขยายเครือข่ายการขนส่งที่แข็งแกร่งและรวดเร็วไปสู่ทั่วโลก 
โดยโครงการดังกล่าวจะช่วยเอื้อผลประโยชน์ต่อประเทศในกลุ่มสมาชิกอาเซียน ซึ่งในอนาคตคาดว่าประเทศเมียนมาและเวียดนามจะเป็นกำลังสำคัญในอุตสาหกรรมการผลิตในอนาคต นอกจากจะช่วยเอื้อประโยชน์กับกลุ่มประเทศอาเซียน แต่ยังเอื้อประโยชน์ต่อประเทศในแถบยุโรปอีกด้วย เนื่องจากสินค้าจะต้องส่งผ่านเส้นทางเครือข่ายรถไฟระหว่างจีนและยุโรป มักจะเป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูง เชื่อมโยงแบบครบวงจรและขนส่งด้วยความเร็วสูง เพื่อให้การขนส่งมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว